Next
Previous

วันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

0

อัพลุคสไตล์แคชชวล กับ “กำไลข้อมือเดนิม”




สำหรับสาวที่รักความเรียบง่าย แต่หลงใหลการสร้างสีสันให้กับชีวิต ด้วยกิจกรรมสนุกๆ ไอเท็ม “ยีนส์” คงจะเป็นเครื่องแต่งกายที่เหมาะกับสาวสไตล์นี้เป็นที่สุด เพราะนอกจากจะให้ลุคที่คล่องตัว ทะมัดทะแมงแล้ว ยีนส์ยังสามารถมิกซ์แอนด์แมทช์ได้หลากลุคหลายโอกาสอีกด้วย แต่สำหรับโอกาสพิเศษอย่างเทศกาลวาเลนไทน์ สาวๆ ควรเพิ่มลูกเล่นให้กับชุดเก่งด้วยการเติมสีสันหรือเครื่องประดับยีนส์ดีไซน์สวย ที่ช่วยอัพลุคการแต่งตัวให้ดูเก๋ขึ้นในพริบตา อย่างกำไลข้อมือเดนิม

     ซึ่งมีวิธีประดิษฐ์ง่ายๆ โดยตัดผ้ายีนส์เป็นเส้นยาว ให้มีขนาดกว้าง 3-5 เซนติเมตร จากนั้นพับผ้ายีนส์ให้เป็นจีบ จะพับ 1 หรือ 2 หรือ 3 จีบก็ได้ตามความชอบ แล้วร้อยผ้ายีนส์ที่เตรียมไว้กับลูกปัดไม้สีสดที่ตัดกับสีผ้ายีนส์ด้วยเข็มและด้ายโดยให้ลูกปัดอยู่กึ่งกลาง และทำซ้ำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนได้ความยาวตามขนาดข้อมือ เย็บปลายผ้าทั้ง 2 ข้างเข้าด้วยกันเป็นวงกลม เพียงเท่านี้ก็จะได้กำไลยีนส์สุดเท่ไว้สวมใส่ในโอกาสสุดพิเศษแล้ว




เทคนิคการมิกซ์แอนด์แมทช์ หากคุณเป็นคนที่ชอบการแต่งตัวในสไตล์แคชชวล ที่เป็นลุคสบายๆ แต่ดูดี ให้ลองเลือกเดรสสั้นทรงกระดิ่งแขนกุดผ้าฝ้าย 100% สีขาว ที่มีปลายกระโปรงกว้างพริ้วเป็นคีย์ไอเท็ม สวมทับด้วยเสื้อกั๊กยีนส์ หรือสาวท่านไหนอยากจะอินกับเทศกาลวาเลนไทน์ ให้ลองเลือกเสื้อกั๊กยีนส์สีแดงสดมาเพิ่มสีสันในวันพิเศษด้วยก็ได้ นอกจากนี้อาจจะเพิ่มลูกเล่นด้วยสายคาดศีรษะสไตล์โบฮีเมียน และปิดท้ายด้วยไฮไลท์สำคัญอย่าง กำไลยีนส์ดีไซน์เก๋ ที่ช่วยเสริมลุคให้คุณดูเป็นสาวเท่ มาดมั่น แต่ยังแฝงเสน่ห์ความเป็นผู้หญิงได้อย่างลงตัว
0

เติมเสน่ห์ความหรูหรามีระดับ กับ “ดอกไม้คาดผม”



หากคุณเป็นหนึ่งในสาวผู้โชคดีที่มีแผนจะไปร่วมรับประทานดินเนอร์สุดหรูกับชายหนุ่มที่รู้ใจ สิ่งแรกที่สาวๆ หลายคนมักให้ความสำคัญเป็นพิเศษคือ เสื้อผ้า ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความมั่นใจแก่ผู้สวมใส่แล้ว เสื้อผ้ายังเปรียบเสมือนสิ่งที่บ่งบอกถึงรสนิยมและมารยาททางสังคมอีกด้วย ฉะนั้นเสื้อผ้าสไตล์เรียบหรู จึงเป็นที่นิยมของสาวๆ เป็นพิเศษ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ควรมีการเพิ่มความเก๋ไก๋ให้กับตัวคุณด้วยการตบแต่งเพิ่มเติมเครื่องประดับอื่นๆ อย่างเช่นเครื่องประดับศีรษะจำพวกโบว์หรือที่คาดผมรูปดอกไม้สีสันสดใส


     โดยสาวๆ สามารถประดิษฐ์ได้เองที่บ้าน โดยเริ่มจากการหาผ้าฝ้ายสีสันที่ชอบ ตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาด 4x6 เซนติเมตรสำหรับทำกลีบดอก โดยพับให้เป็นทบเล็กๆ ซ้อนกันตามแนวยาว มัดปลายด้วยด้าย ทำประมาณ 6 – 7 ชิ้น แล้วรวมทั้งหมดเข้าด้วยกันเป็นช่อ แล้วมัดปลายเป็นฐานดอกด้วยด้าย จากนั้นตกแต่งกลีบดอกให้กลมมนสวยงาม แล้วค่อยๆ คลี่ผ้าออก เหมือนดอกไม้ที่กำลังผลิบาน ต่อมาเป็นส่วนของสายคาดศีรษะ ตัดผ้าให้มีความยาวประมาณ 60 เซนติเมตร แล้วมัดกับฐานดอกที่ทำสำเร็จไว้แล้วอีกที ก็จะได้เป็นสายคาดผมประดับดอกไม้ที่เสร็จสมบูรณ์พร้อมออกงาน
     เทคนิคการมิกซ์แอนด์แมทช์ สำหรับการออกไปรับประทานดินเนอร์สุดหรูนั้น สาวๆ ควรเลือกเสื้อผ้าในโทนสีเข้มอย่างสีดำ หรือสีกรมท่า ที่นอกจากจะให้ความรู้สึกที่เรียบหรู ดูดีมีรสนิยมแล้ว ยังสามารถช่วยอำพรางหุ่นของสาวๆ ได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งอาจจะเลือกชุดที่ตกแต่งด้วยผ้าลูกไม้เพื่อเพิ่ม เสน่ห์ความอ่อนหวานแบบผู้หญิงอีกด้วย นอกจากนั้นควรเลือกสวมรองเท้าส้นสูงสีเข้ม แมทช์คูกับกระเป๋าคลัชใบกะทัดรัด แต่งหน้าโทนสีธรรมชาติ ซึ่งอาจจะเน้นที่สีของลิปสติกเพื่อสร้างความโดดเด่น อย่างสีแดงหรือสีส้ม แต่ถ้าหากต้องการความสดใสน่ารัก อาจเลือกเป็นโทนสีนู้ดหรือสีชมพูอ่อนก็ได้ ส่วนทรงผมแนะนำว่าควรรวบหรือเกล้าให้เรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นรวบสูงแล้วมวยให้เป็นก้นหอย หรือรวบผมต่ำด้านข้างถักเปียเก็บปลายให้เรียบร้อย แล้วแซมด้วยแอคเซสเซอรี่ดอกไม้ที่ประดิษฐ์ขึ้นเองจากผ้าฝ้าย โดยอาจจะเลือกเป็นโทนสีพาสเทลอย่างสีฟ้าอ่อน เหลืองอ่อน และครีม ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความโรแมนติกในตัวคุณได้ไม่น้อย แต่เคล็ดลับสำคัญที่จะมัดใจชายหนุ่มผู้โชคดี ได้ ก็คือความจริงใจและมิตรไมตรีที่ส่งผ่านรอยยิ้มของคุณนั่นเอง
0

Lady Dior









Dior นำเสนอโฆษณาชิ้นใหม่ของกระเป๋าสุดคลาสสิค Lady Dior ซึ่งเป็นผลงานการถ่ายภาพจากช่างภาพชื่อดังชาวฝรั่งเศส Jean-Baptiste Mondino ผลงานชิ้นนี้เผยให้เห็นถึงผู้หญิงที่มีความลึกลับน่าค้นหา และมีเสน่ห์อันเย้ายวน

0

SHOW HAUTE COUTURE



    เสื้อผ้าและอิสตรีบ่งบอกถึงฤดูกาลที่ผันผ่านไป ตั้งแต่ปฐมบทของชีวิตจากการเริ่มออกดอกผลิใบของดอกไม้นานาพันธุ์ในปลายฤดูหนาว จนถึงการบานสะพรั่งชูช่อไสวกลางฤดูร้อน SHOW HAUTE COUTURE SPRING SUMMER 2013 ที่ได้จัดขึ้น ณ นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน โดย Dior Raf Simons มุ่งเน้นที่จะนำเสนอชิ้นงานอันสะท้อนให้เห็นถึงความงามสะพรั่งของฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลง ก่อนหน้านี้ ดิออร์ได้แสดงผลงานโอต์ กูตูร์ คอลเลคชั่นแรกในปี 1947 ผลงานที่ปรากฏ สะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานการออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้าที่มีความพิถีพิถันป็นอย่างมาก โดยช่างฝีมือ (atelier) ได้ทุ่มเทกับการสร้างสรรค์ผลงานการออกแบบที่สะท้อนให้เห็นถึงเสน่ห์และความหรูหราของอิสตรี ทุกๆ ผลงานการออกแบบซึ่งถูกแต่งแต้มด้วยรายละเอียดนั้น เต็มเปี่ยมไปด้วยจินตนาการและความฝันของผู้ออกแบบซึ่งมุ้งเน้นที่จะสืบทอดเจตนารมณ์ของมิสเตอร์ดิออร์ในการเนรมิตความงามซึ่งไม่มีที่สิ้นสุดให้แก่อิสตรี


              เหล่านางแบบชื่อดังได้โชว์ผลงานโอต์ กูตูร์ให้เราเห็นผ่านแคทวอล์คในกรุงปารีส แรงบันดาลใจดังกล่าวถูกถ่ายทอดผ่านเลเยอร์ของดอกไม้อันสวยงามที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ชิ้นงานแรกของคอลเลคชั่น จนเป็นชิ้นงานสร้างสรรค์ชุดเดรสทรงบอลลูนประดับด้วยดอกไม้ โครงสร้างอันปราณีตนี้ถ่ายทอดถึงความเป็นธรรมชาติที่เกิดจากการสร้างสรรค์ในระดับฝีมือช่างชั้นสูงของ Dior


0

The 60s




Moschino SS2013 Collection


               ยุค 60’s เป็นหนึ่งในหลายยุคที่มีอิทธิพลต่อกระแสแฟชั่นของฤดูกาลนี้ เดรสตัวสั้น มินิสเกิร์ต แจ๊กเก็ตทรงตรง จั๊มพ์สูท กระโปรงทรงเอ เสื้อคอบัว ลวดลายเลขาคณิต ชุดสีสันจัดจ้าน ทั้งหมดคือคีย์เวิร์ดที่ควรท่องเอาไว้ ปีนี้เราได้เห็นรูปแบบการแต่งตัวใหม่ๆ ที่ดึงเอากลิ่นอายของช่วงปี 1960’s ออกมาดัดแปลงได้อย่างน่าสนใจเช่น โชว์ของ Markus Lupfer, Eudon Choi, Thomas Tait และอีกมากมายที่ดูเป็น 60’s ในแบบอวกาศออกแนวล้ำยุค ดูเปรี้ยวเท่ หรือในลุคสดใส ก๋ากั่น ดูสนุกสนานอย่างโชว์ของ Moschino, Louis Vuitton, Holly Fulton ส่วน Gucci และTom Ford ปรับลุค 60’s ให้ดูสุขุมเป็นผู้ใหญ่ ซีซั่นนี้นอกจากจะได้สนุกกับเสื้อผ้าวินเทจของคุณแม่แล้ว ถ้าได้ติดขนตาปลอม กรีดอายไลน์เนอร์สองชั้นแล้วทาปากสีนู้ดแบบสาว Twiggy แฟชั่นไอคอนในยุคนั้นด้วยล่ะก็ รับรองว่าแจ่ม!

Louis Vuitton SS2013 Collection
Marc Jacobs SS2013 Collection



Michael Kors SS2013 Collection





Holly Fulton SS2013 Collection





Gucci SS2013 Collection

วันพุธที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

0

สวยหวานกับ คาร์ดิแกนเสื้อคลุมตัวยาว




คาร์ดิแกน หรือ เสื้อคลุมตัวยาว ที่คุณผู้หญิงควรที่จะมีติดตู้เสื้อผ้ากันไว้ได้เลยค่ะ เพราะช่วงนี้แฟชั่นต่างหมุนเวียน กลับมาใส่ Cardigan พร้อมใจกันอีกครั้ง โดยหยิบคาร์ดิแกนมาใส่ได้ไม่มีเอ๊าท์แน่นอน แล้วช่วงนี้มีฝนบ้างก็มีลมเย็นๆ อากาศชื้น ๆ ที่มาพร้อมกับฝนในฤดูนี้ก็เป็นได้ ส่วนจะใส่อย่างไรให้สวยนั้นไม่ยาก คาร์ดิแกน เป็นเสื้อชิ้นที่มิกซ์แอนด์แมทช์ได้ทั้งกางเกงขาสั้น ขายาว และกระโปรง ที่ไม่ควรขาดคือเสื้อตัวใน เป็นสีพื้นๆ ไม่จำเป็นต้องมีลวดลาย จะปลดกระดุมของคาร์ดิแกนหมดทุกเม็ด หรือติดตั้งแต่เม็ดช่วงท้อง อย่าลืมสร้อยคอยาว ทาเล็บสีหวาน ๆ เฉดเดียวกับคาร์ดิแกน ช้อปปิ้งได้ทั้งช่วงเช้า แถมยังแฮงเอ้าท์ต่อในไนท์ปาร์ตี้ได้อีกด้วย ลองมาดูการแต่งตัวให้เข้ากับเจ้าเสื้อคลุมตัวยาว Cardigan แบบเก๋ๆกันดีกว่าค่ะ

0

PARKER...ปากกาแห่งประวัติศาสตร์โลก





ยังคงครองตำแหน่งผู้นำด้านคุณภาพการเขียนระดับโลก สำหรับปากกาสัญชาติอเมริกันที่มีอายุยาวนานถึง 125 ปี อย่าง ‘Parker’ นอกจากรูปลักษณ์เรียบหรู ทันสมัย ยังมาพร้อมเทคโนโลยีที่ยกระดับการเขียนให้ไหลลื่นแบบไร้ขีดจำกัด

คุณปรีชา อาชามงคล ผู้จัดการฝ่ายการตลาดให้ข้อมูลว่า “ป๊ากเกอร์ถูกผลิตขึ้นโดยมิสเตอร์ จอร์จ ซัฟฟอร์ด ป๊ากเกอร์ (George Safford Parker) ซึ่งเดิมมีอาชีพเป็นครูที่สังเกตเห็นปัญหาของเด็กนักเรียนที่ใช้ปากกาหมึกซึม ส่วนใหญใช้ไปสักพักก็พัง เขาจึงคิดค้นทำปากกาดีๆ ขึ้นมาให้เด็กใช้ จากนั้นก็เริ่มทำแบรนด์โดยชื่อว่า ป๊ากเกอร์ ภายหลังบริษัทนีเวลล์ รับเบอร์เมด (Newell Rubbermaid) ได้เข้าซื้อกิจการ จึงทำให้ปัจจุบันป๊ากเกอร์ มีฐานการผลิตอยู่ในหลายประเทศทั้งฝรั่งเศส อเมริกา อังกฤษ

แฟล็กชิฟสโตร์แห่งแรกในเอเชีย
“โลโก้ที่ถือเป็นไอคอนแบรนด์คือ คลิปหนีบรูปลูกศร ดังนั้นสถาปนิกชาวฝรั่งเศสอย่างมิสเตอร์บรูโน่ โมนาร์ด (Bruno Moinard) ผู้ที่เคยดีไซน์ร้านให้กับ YSL ที่อเมริกา และออฟฟิศของ Hermes ในฝรั่งเศส จนโด่งดังไปทั่วโลก จึงนำคาแรคเตอร์ของโลโก้มาผสมผสานในการตกแต่งร้านที่ตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 ของเซ็นทรัลเวิลด์ ผนังร้านใช้ไม้เบิร์ช ผลิตจากโปแลนด์ ซึ่งแกะลวดลายด้วยเลเซอร์ให้เป็นเส้นเหมือนหัวลูกศร เน้นความเรียบง่าย สีธรรมชาติของเนื้อไม้ให้ความรู้สึกอบอุ่น ช็อปนี้นับเป็นแห่งที่ 3 ของโลกและเป็นแฟล็กชิฟสโตร์แห่งแรกของเอเชีย

เทคโนโลยีปากกาสุดล้ำฉบับ ‘ป๊ากเกอร์’
“ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีการทำรีเสิร์ชความต้องการของผู้ใช้ปากกาในทวีปต่างๆ ทั้งอเมริกา รัสเซีย ฝรั่งเศส จีน พบว่า มีคนจำนวนมากต้องการใช้ปากกาที่มีฟังค์ชั่นการใช้งานเหมือนปากกาหมึกซึมคือ พอใช้งานไปสักระยะ โลหะที่ปลายด้ามจะค่อยๆ ปรับให้รับกับองศาของมือผู้ใช้ ป๊ากเกอร์ จึงเปิดตัวเทคโนโลยีที่เรียกว่า 5TH หรือ ฟิฟท์ เป็นนวัตกรรมที่มอบประสบการณ์การเขียนอันนุ่มนวล เสมือนลายเส้นจากปากกาหมึกซึมที่มาพร้อมไส้รีฟิลที่อำนวยความสะดวกสบาย ทดแทนเวลาในการสูบหมึก รวมทั้งยังมีการออกแบบหัวปากกาให้ปรับตามน้ำหนักการเขียนเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล

“นอกจากนี้ เดิมเวลาพกปากกาหมึกซึมขึ้นเครื่องบิน หมึกในหลอดสูบน้ำหมึกอาจซึมออกมา เนื่องจากแรงดันอากาศ หรือถ้าเราวางทิ้งไว้บนโต๊ะอาจแห้ง มีคราบหรือตะกอนของหมึกเกาะอยู่ เทคโนโลยีฟิฟท์ช่วยให้ปัญหาเหล่านี้หมดไป อย่างรุ่นอินจินิวอิตี้ (Ingenuity) เป็นคอลเล็คชั่นที่ผลิตมาพร้อมกับเทคโนโลยีฟิฟท์ ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จมาก โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น และจีน บวกกับดีไซน์ที่ออกแบบมาเพื่อคุณผู้หญิง ผ่านรูปลักษณ์ของปากกาด้ามสีทองสลับชมพู หรือสีขาวมุก ที่ช่วยเสริมลุคให้ดูดีขึ้น ทำให้ได้รับความนิยมมาก

คอลเล็คชั่นปากกาสุดคลาสสิก

“คอลเล็คชั่นที่เป็นตำนานของป๊ากเกอร์รุ่นแรกชื่อว่า ดูโอโฟลด์ (Duofold) เพราะใช้เซ็นสัญญาสงบศึกในสงครามเย็นระหว่างประธานาธิบดีโซเวียต กับประธานาธิบดีสหรัฐฯ แล้วทำการแลกปากกาซึ่งกันและกัน หลังจากนั้นจึงมีดีไซน์รุ่นนี้ขึ้นมาใหม่ โดยทำเป็นรุ่นลิมิเต็ด ที่มีจำหน่ายอยู่ในร้าน ณ ตอนนี้ราคาอยู่ที่ 150,000 บาท ถัดมาคือคอลเล็คชั่น ซอนเนต (Sonnet)

ด้ามปากกาดีไซน์ให้มีลักษณะคล้ายกับมวนบุหรี่ซิก้าร์ ขนาดเหมาะมือ ส่วนอีกรุ่นคือ จอตเตอร์ (Jotter) เป็นปากกาลูกลื่นที่ป๊ากเกอร์ผลิตครั้งแรกในปี 1954 ปัจจุบันยังเป็นรุ่นที่ขายดี



โดยคงเอกลักษณ์ในเรื่องของรูปแบบเดิมไว้ทั้งหมด ต้องบอกว่ากระแสตอบรับดีมาก นอกจากนี้ยังมีพวกเครื่องหนังคุณภาพดี เช่น กระเป๋าสะพายขนาดต่างๆ ซึ่งผลิตจากอิตาลีทั้งหมด โดยได้แรงบันดาลใจมาจากลวดลายกราฟิกบนด้ามปากกา ซึ่งมีชื่อเรียกว่า ซิเซเล่ (ciselé) เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์อันโดดเด่นของป๊ากเกอร์เช่นกัน”